เครื่องหมายเชิดชูเกียรติ
๑. เครื่องหมายแสดงวิทยฐานะของผู้สำเร็จการศึกษา หลักสูตรการจัดงานส่งกำลังบำรุงชั้นสูง
- ส่วนกว้าง ๒.๕ ซ.ม. ส่วนสูง ๕.๕ ซ.ม.
- สีพื้นของเข็มเป็นสีเขียว ตามความหมายของโรงเรียนส่งกำลังบำรุงทหารบก
- ลักษณะรูปต่าง เป็นรูปวงรี ตรงกลางมีคบเพลิงกับดาว ๕ แฉก และกรงจักรอยู่ตรงกลาง ทำด้วยโลหะสีทอง หมายถึง ความรอบรู้ในด้านการส่งกำลังบำรุงของกองทัพบก
๒. ให้สลักชื่อหลักสูตร รุ่น ปี และชื่อ-นามสกุล ของผู้เข้ารับการศึกษา ดังนี้
- บรรทัดแรก ลงชื่อหลักสูตร ว่า "หลักสูตร กจบ."
- บรรทัดที่สอง ลงลำดับรุ่นและปี ว่า "รุ่นที่.../พ.ศ. ..."
- บรรทัดที่สาม ลง ยศ นาม และนามสกุล
ยุทบริการาธิปัตย์ เป็นเข็มวิทยฐานะทางการศึกษาที่กองทัพบกอนุมัติให้แก่ผู้ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรการจัดงานส่งกำลังบำรุง (หลักสูตร กจบ.) ของโรงเรียนส่งกำลังบำรุง เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๒๑ อนุมัติผู้บัญชาการทหารบก ท้ายบันทึกข้อความ กรมกำลังพลทหารบก ที่ กห ๐๓๑๕/๒๓๘๗ ลง ๒ มีนาคม พ.ศ.๒๕๒๑ เรื่อง "ขออนุมัติให้ผู้ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรการจัดงานส่งกำลังบำรุงประดับเครื่องหมายเข็มแสดงวิทยฐานะ"
การที่กองทัพบกได้อนุมัติเข็มวิทยาฐานะให้แก่ผู้ที่สำเร็จการศึกษา หลักสูตรการจัดงานส่งกำลังบำรุงในครั้งนั้น มีผลทำให้ผู้ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรการจัดงานส่งกำลังบำรุงของโรงเรียนส่งกำลังบำรุงทุกรุ่น นับตั้งแต่รุ่นอบรมครู และรุ่นที่ ๑ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๐ จนถึงรุ่นต่อๆ มา มีศักดิ์และสิทธืที่จะประดับเข็มวิทยาฐานะแล้ว ก็ได้ประกอบพิธีมองเข็มให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรการจัดงานส่งกำลังบำรุงทหารบก ตั้งแต่รุ่นอบรมครู และรุ่นที่ ๑ จนถึงรุ่นที่ ๒๑ เป็นส่วนรวมพร้อมกัน ที่หอประชุมกองทัพบก เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๒๑ ในปีต่อมา โรงเรียนส่งกำลังบำรุงทหารบกก็ได้จัดพิธีมอบเข็มวิทยฐานะ ให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรการจัดงานส่งกำลังบำรุงตามที่กองทัพบกกำหนดไว้เป็นประจำทุกปี
คำว่า "ยุทธบริการาธิปัตย์" เป็นทั้งคำสมาสและสนธิ มาจากคำ ๓ คำ รวมกัน คือ คำว่า ยุทธ* บริการ* อธิปัตย์*
คำว่า ยุทธ แปลว่า สงครามหรือการรบพุ่ง
คำว่า บริการ แปลว่า การให้ความช่วยเหลือเกื้อกูล หรือการรับใช้
คำว่า อธิปัตย์ แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ หรือมีอำนาจ
เมื่อนำคำว่า ยุทธ มาสมาสกับคำว่า บริการ เป็นคำว่า ยุทธบริการ จึงแปลตามความหมายของคำได้ว่า การให้ความช่วยเหลือหรือการรับใช้ในการรบ ซึ่งหมายถึง กรมสายยุทธบริการทั้ง ๙ สาย ได้แก่
- กรมแพทย์ทหารบก
- กรมพลาธิการทหารบก
- กรมสรรพาวุธทหารบก
- กรมการขนส่งทหารบก
- กรมการทหารสื่อสาร
- กรมการทหารช่าง
- กรมยุทธโยธาทหารบก
- กรมการสัตว์ทหารบก
- กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก
ซึ่งมีหน้าที่สนับสนุนทางการช่วยรบหรือส่งกำลังบำรุงให้แก่หน่วยรบโดยตรงนั่นเอง
ฉะนั้น เมื่อเอาคำว่า ยุทธบริการ มาสนธิกับคำว่า อธิปัตย์ จึงเป็นคำว่า ยุทธบริการาธิปัตย์ ซึ่งแปลความหมายได้ว่า ผู้เป็นใหญ่หรือมีอำนาจในการให้ความช่วยเหลือหรือรับใช้ในการรบ ซึ่งหมายถึง การส่งกำลังบำรุงนั่นเอง
ในการตั้งชื่อเข็มวิทยฐานะของโรงเรียนส่งกำลังบำรุงทหารบกนั้น ได้มีผู้เสนอรายชื่อต่งๆ เพื่อทำการคัดเลือกเป็นชื่อเข็มวิทยฐานะของโรงเรียนส่งกำลังบำรุงทหารมากมายหลายชื่อ ท้ายที่สุดก็ได้ชื่อ ซึ่งท่านเจ้าคุณพระสาสนโสภณ (นิรันดร์เปรียญ ๙ ประโยค) เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินราวาส ท่านได้กรุณาตั้งชื่อให้ ชื่อว่า "ยุทธบริการาธิปัตย์" ซึ่งมีความหมายตามที่เรียนชี้แจงให้ทราบแล้วข้างต้น และกองทัพบกก็เห็นชอบและอนุมัติให้ใช้เป็นชื่อเข็มวิทยฐานะของโรงเรียนส่งกำลังบำรุงทหารบก ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๑ เป็นต้นมา